บทความเคล็ดลับการสร้างตัวของคนธรรมดา อาแปะผมขาว ได้แนะนำพื้นฐานการสร้างตัวนั้น จะต้องประกอบไปด้วย คุณสมบัติพื้นฐานที่เราต้องมี คือ ความอดทน ความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ ความประหยัด และความมีน้ำใจ
เคล็ดลับ การสร้างตัว ของคนธรรมดา

3 เดือนมานี้ ได้ยินเพื่อนบ่นไม่อยากทำงาน อยากเปลี่ยนงานกันหลายคน ก็พลอยทำให้ตัวเองรู้สึกแบบเดียวกันไปด้วย ช่วงปีใหม่ได้มีโอกาสกลับบ้านต่างจังหวัดได้ปล่อยใจพักผ่อนหย่อนใจ ก็ทำให้เรามีความสุขใจขึ้นมาหน่อย และ ระหว่างที่เราอยู่ที่นั่น ก็ได้พบปะคนเฒ่าคนแก่หลายคน ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกัน พวกผู้เฒ่าจะนั่งจับกลุ่มสนทนากับอาก๋งของเรา ซึ่งนานๆทีเราถึงจะได้กลับบ้าน พอเขาเห็นเรา ก็เรียกเข้าไปคุยด้วย
ก็เลยได้มีโอกาสถามสิ่งที่อยากรู้ มานาน ซึ่งเป็นเรื่องของ อาแปะผมขาว ที่สร้างเนื้อสร้างตัว จากคนจีนโพ้นทะเล เสื่อผืนหมอนใบ จนมีทรัพย์สินหลายสิบล้าน ส่งเสีย ญาติพี่น้อง สามสี่สิบคน ได้ดิบได้ดีกันทุกคน ยังไม่แค่นั้น แกยังมีเงินส่งกลับเมืองจีน เลี้ยงคนที่เมืองจีนอีก 50 – 60 ชีวิต ที่นั่น จนจัดว่าเป็นผู้มีอันจะกินของหมู่บ้านนั้น
ด้วยวัยสามสิบ ต้นๆของเรา สิ่งที่คนวัยนี้อยากรู้ก็คือ อาแปะตั้งตัวขึ้นมาได้อย่างไร ทำไมถึงเป็นเจ้าของกิจการได้ ทั้งๆที่ไม่มีทุนรอน ไม่ความรู้ ไม่มีการศึกษา เกื้อหนุนสักอย่าง
อาแปะเหมือนรู้ใจเรา เหมือนรู้ว่าเราคิดอะไร อาแปะเลยบอกว่า อั๊วจะสอนเคล็ดลับความรวยให้ลื้อฟัง ซึ่งผมสรุปใจความได้ว่า
ช่วง ก่อนสร้างตัว
สิ่งที่ต้องมี สิ่งแรก ก็คือ
ความอดทน
ช่วงนี้ไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะว่าเรายังโง่อยู่
ใครมีงานอะไรให้ทำ ก็ทำมันทุกอย่างให้หมด
แต่ต้องไม่ลืมถามเถ้าแก่ว่า
เป้าหมายของงานมันคืออะไร
จะได้รู้ว่าคนที่เป็นเจ้าของเขาคิดอะไร
ช่วงแรกไม่ว่าจะโดนโขกสับอย่างไร
ก็ต้องทน และก็จำอย่างเดียว
ยังคิดไม่เป็น
แต่การทำงานหลายๆอย่าง
ทำให้ความรู้เรามากขึ้น
ซึ่งถ้าเราไม่อดทน
ก็จะไม่ทันได้เรียนรู้
แล้วก็เลิกล้มความตั้งใจทำงานเสียก่อน
แต่เมื่อเรียนรู้ไปสักพัก สัก 4-5 ปี อารมณ์
ความเก่งมันจะกระฉูด เราจะคิดว่าเราเก่ง
ความเก่งมันจะกระฉูด เราจะคิดว่าเราเก่ง
เราแน่ ใจใหญ่ กล้าเสี่ยง
เพราะเราก็เหมือนกบในกะลา ยังไม่เจอโลกกว้าง
ก็เลยไม่รู้ว่าตัวเองนั้น ความรู้ยังไม่แตกฉาน
ยังไม่ปะติดปะต่อ กันเลย
ยังไม่ปะติดปะต่อ กันเลย
ดังนั้นช่วงวัยนี้ หลายคนจะเริ่มออกจากงานและออกมาทำเอง
แต่ด้วยความไม่เข้าใจ การตลาด การเงิน การบริหารคน
สุดท้ายแล้ว ธุรกิจก็เจ๊ง
สิ่งที่สอง ที่เราต้องมี คือ
ความกระตือรือร้น ที่จะเรียนรู้ วาดฝัน
ศึกษาวิธีคิดทุกอย่างที่เถ้าแก่เขาทำ
ต้องรู้จักเพราะถามแล้ว ได้คำตอบหรือไม่ได้คำตอบก็ไม่มีการขาดทุน
มีแต่ได้กับได้ ทำจนวันหนึ่ง พอเถ้าแก่ไม่ทันจะสั่ง เราก็คิดออกก่อน
มีแต่ได้กับได้ ทำจนวันหนึ่ง พอเถ้าแก่ไม่ทันจะสั่ง เราก็คิดออกก่อน
ซึ่งหากเราทำจนเราคิดเหมือนเถ้าแก่แล้ว
ตอนนี้จึงค่อยคิดเรื่องสร้างตัว สร้างธุรกิจของตัวเอง
ซึ่งขั้นตอนนี้ จะเร็ว จะช้า ขึ้นอยู่กับ ความสามารถ
ความเอาใจใส่ของตัวเราเอง
แต่แม้จะมีความรู้แล้วก็ตาม
แต่ก็ยังไม่ถึงเวลาที่จะออกมาทำ
สิ่ง ที่สามที่ต้องทำมาตลอดตั้ง
แต่เริ่มการทำงาน ก็คือ
ความประหยัด
เพราะเราไม่รู้ว่า วันใดเราจะต้องใช้เงิน
ดังนั้นการกิน การใช้จะต้องระมัดระวัง
ต้องเก็บให้มาก เพื่อ สำรองไว้เป็นเงินทุนในอนาคต
เก็บมากขนาดไหนนั้น ตอบไม่ได้ว่าเท่าใด
แต่มันต้องสอดคล้องกับสิ่งที่เราจะลงทุน
เราต้องมีเงินทุนให้มากพอหมุนได้อย่างน้อยสัก 6 เดือน
เพราะธุรกิจ สามเดือนแรกจะลำบากมาก
เพราะธุรกิจ สามเดือนแรกจะลำบากมาก
ยังไม่มีลูกค้ามากนัก แถมรายได้เราก็ไม่มีแล้ว
ดังนั้น เราต้องมีเงินทุนให้พอยืนหยัดให้ได้อย่างน้อย 6 เดือน
ก็พอจะทำให้เรามีเวลาดิ้นรน
มีเวลาคิดเอาตัวรอดได้
แต่แม้จะมีสิ่งข้างต้นแล้ว
ซึ่งดูเหมือนว่าเพียงพอที่จะเริ่มต้นธุรกิจแล้วก็ตาม
แต่ สิ่งที่ต้องมีข้อที่สี่
จะช่วยให้ธุรกิจของเรา
มีความเสี่ยงลดลงในอนาคต นั่นก็คือ
ความมีน้ำใจ
ซึ่งเราต้องสร้าง และสะสมตั้งแต่สมัยทำงานใหม่ๆเลยทีเดียว
เพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่า
นหนึ่ง เพื่อนร่วมงาน อาจกลายเป็นลูกค้าของเราในอนาคต ,
บางคนอาจกลายเป็นลูกน้องที่เก่งกาจของเรา ,
บางคนอาจกลายเป็นนายทุนเงินกู้ หรือ
บางคนอาจนำพาเราไปสู่การได้ลูกค้ารายใหญ่ ก็ได้
เดิมทีอั๊วก็ไม่ได้รู้ว่าความมีน้ำใจกับคนรอบข้างนั้นสำคัญหรอก
แต่เมื่อก่อนอั๊วเป็นคนขยัน ชอบเรียนรู้
อยากได้ความรู้ ก็เลยไปช่วยเขาทำงาน
ถูกคนอื่นโบ้ยงานให้ก็ไม่บ่น ไม่คิดมาก
เราเข้าไปช่วยคนอื่นเขาหมด
และด้วยนิสัยไม่ชอบเอาเปรียบใคร
ก็เลยมีอะไรมา ก็แบ่งปัน
ลูกค้าเอาขนมมาให้อั๊วก็แจกทุกคน แบ่งๆกันไป
จนมาทีหลังถึงมารู้ว่า ความมีน้ำใจ นำหลายๆสิ่งดีๆมาให้กับเรา
ซึ่งหลังจากทำธุรกิจไปสักพักหนึ่ง
ความมีน้ำใจของเรา จะเริ่มมีบทบาท
สำคัญต่อความอยู่รอดของธุรกิจ ในอนาคตเป็นอย่างมาก
สำคัญต่อความอยู่รอดของธุรกิจ ในอนาคตเป็นอย่างมาก
จากสิ่งที่อาแปะเล่าให้ฟัง ทำให้ผมพบว่า
เราต้องหางานที่เราชอบให้พบเสียก่อน
เหมือนช่วงแรกที่อาแปะทำงานมาหลายงาน
และเมื่อพบงานที่ชอบ ก็ต้องอาศัยความอดทน
ทนบ่น ทนเบื่อ ทนสิ่งต่างๆนานา
ทนบ่น ทนเบื่อ ทนสิ่งต่างๆนานา
เพื่อเรียนรู้งานให้แตกฉาน จนคิดได้เหมือนเจ้าของ
จึงพอที่เราจะเริ่มคิดทำธุรกิจของตัวเอง
แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด
เพื่อสำรองเงินทุนในอนาคตไว้ให้มีพร้อมตลอดเวลา
แต่ในขณะเดียวกัน เราต้องไม่ลืมความมีน้ำใจกับคนรอบข้าง
ซึ่งนั้นก็คือ Connection ของเราในอนาคต ยิ่งมีมากเท่าใด
โอกาสทางธุรกิจก็ย่อมมีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น